digital-lava.svg
ทั่วโลกจับตา nfc พลิกโลกธุรกิจได้จริงไหม

ทั่วโลกจับตา nfc พลิกโลกธุรกิจได้จริงไหม

NFC คืออะไร?

NFC หรือ Near Field Communication เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจในหลายๆ ด้านได้อย่างมหาศาล เทคโนโลยีนี้มีความสามารถในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้กันโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ ทำให้เราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น

การใช้ NFC มีผลต่อธุรกิจในหลายด้าน เช่นในด้านการชำระเงิน การใช้ NFC เพื่อทำธุรกรรมการชำระเงินทำให้การชำระเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องมีการใช้เงินสดหรือการถอนบัตรเครดิตออกมาเพียงแค่เครื่องมือที่มี NFC ทั้งฝั่งลูกค้าและผู้ขายก็สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น

ประโยชน์ของ NFCในด้านการโฆษณาและการตลาด

การใช้ NFC ในการโฆษณาและการตลาดช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าหรือบริการได้โดยง่าย พวกเขาสามารถสแกนหรือทัชอุปกรณ์ NFC เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม เช่น โปรโมชั่นพิเศษ ข้อมูลการใช้งานสินค้า หรือแม้กระทั่งการแสดงวิดีโอโฆษณา

ในการบริหารจัดการความรู้สึกของลูกค้า การใช้ NFC สามารถช่วยให้ธุรกิจสร้างประสบการณ์การบริการที่ดีขึ้นได้ เช่น ในโรงแรมลูกค้าสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อประตูห้องพักผ่านทาง NFC หรือในร้านอาหารลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านระบบ NFC โดยตรง

ด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลายและความสามารถในการทำให้การสื่อสารและการทำธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยี NFC เข้ามาใช้ในธุรกิจจะสามารถพลิกโลกธุรกิจได้โดยเต็มที่ การให้บริการที่รวดเร็วและสะดวกสบายนั้นส่งผลให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและสามารถเพิ่มยอดขายและมีการเชื่อมโยงทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพได้ด้วยค่ะ!

การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้าสู่โลกธุรกิจ ทำได้จริง?

การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้าสู่โลกธุรกิจ ทำได้จริง?

Blockchain คืออะไร?

เทคโนโลยี Blockchain เป็นระบบเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายที่ถูกเข้ารหัสและเชื่อมโยงกันเป็นบล็อกต่อบล็อก แต่ละบล็อกประกอบด้วยข้อมูลที่ถูกยืนยันและเชื่อถือ และมีลักษณะที่สำคัญคือการเชื่อมโยงบล็อกทั้งหมดในรูปแบบของเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ เช่น เลข Hash ที่เป็นรหัสที่สร้างขึ้นจากข้อมูลในบล็อกนั้นๆ

ทุกๆ ครั้งที่มีการเพิ่มข้อมูลเข้าสู่ Blockchain จะต้องมีการตรวจสอบและการยืนยันจากเครือข่ายของผู้ใช้งานทั้งหมด ข้อมูลทั้งหมดใน Blockchain เป็นแบบสาธารณะ ทำให้ทุกคนในเครือข่ายสามารถเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูลได้ และเนื่องจากการเชื่อมโยงของบล็อกแต่ละบล็อกนั้นเป็นที่แน่นอน การแก้ไขข้อมูลในบล็อกที่เก่าเป็นไปไม่ได้โดยง่าย ซึ่งช่วยให้ Blockchain มีความปลอดภัยสูง

Blockchain ได้รับความนิยมมากในการใช้งานในสายอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การเงินและการธนาคาร (cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum), โซลูชันในการตลาด, โซลูชันในการจัดการโลจิสติกส์, ระบบการเลือกตั้ง, และการใช้ในโลกแห่งอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ ซึ่งนับว่าเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ของการนำ Blockchain มาใช้ในการแก้ไขปัญหาในหลายด้านของโลกธุรกิจและเทคโนโลยีในปัจจุบัน

 

gradient-style-nft-concept23-21

 

 

การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้าสู่โลกธุรกิจ

การแก้ไขปัญหาในโลกธุรกิจที่ซับซ้อนและเติบโตอย่างรวดเร็วต้องการแนวคิดและเครื่องมือที่สามารถให้ความมั่นคงและประสิทธิภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี Blockchain กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถเสนอแนวทางแก้ไขในการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพูดถึงความเชื่อถือและความโปร่งใสในการทำธุรกิจระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

Blockchain คือระบบฐานข้อมูลที่มีลักษณะเป็นบล็อกที่มีการเชื่อมโยงกัน โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในแต่ละบล็อกที่เชื่อมโยงกันต่อเนื่อง แต่ละบล็อกนั้นจะถูกกลั่นกรองและถูกเขียนลงในรูปแบบที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้มากขึ้น

การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้าสู่โลกธุรกิจมีผลต่อหลายด้าน:

  1. ความโปร่งใสและความเชื่อถือ: การใช้ Blockchain ช่วยสร้างระบบที่มีความโปร่งใส และการทำธุรกิจที่มีการรับรองเชื่อถือในข้อมูลและธุรกรรมต่างๆ
  2. การลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ: Blockchain ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจโดยลดการใช้งานตัวกลางและลดเวลาในการดำเนินการ
  3. โอกาสใหม่ในการแก้ไขปัญหา: การใช้ Blockchain เปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดการซอฟต์แวร์, โลจิสติกส์, และการตลาด

การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้าสู่โลกธุรกิจไม่ได้เพียงแค่การนำเทคโนโลยีมาใช้งาน แต่ต้องการการเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมการทำงาน และการทบทวนกระบวนการทางธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในทางที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุดในธุรกิจของคุณ

 

vector-smart-contract-protocol-a

Wardiere-Inc

ยางไร้ลมNPT ยางแห่งโลกอนาคต แม้ตะปูเรือใบก็ไม่หวั่น!

ยางไร้ลมNPT ยางแห่งโลกอนาคต แม้ตะปูเรือใบก็ไม่หวั่น!

ยางไร้ลม NPT (Non Pneumatic Tires) คือยางรถยนต์ชนิดพิเศษที่ไม่ต้องเติมลม มีโครงสร้างคล้ายตาข่ายถักแข็งแรงหลายชั้นโดยมีความพิเศษคือสามารถรองรับน้ำหนักตัวรถและขับเคลื่อนไปได้โดยไม่ต้องใช้ลม ซึ่งมีข้อดีคือยางรถจะไม่แตกในระหว่างขับขี่ หรือในกรณีล้อรถเผลอไปเหยียบของมีคมเช่นก้อนหินหรือตะปูเรือใบก็ไม่สามารถทำให้รถยางแบนได้นั่นเอง

 download

ปัจจุบันยาง NPT(ยางไร้ลม) ได้มีค่ายรถยนต์หลายค่ายกำลังพัฒนาและทดสอบก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคจะได้ใช้ยางที่มีคุณภาพดีเยี่ยมกว่าที่เคยมีมา ไม่ว่าจะเป็นค่าย Goodyear ,Michelin ,Bridgestone หรือแม้แต่บริษัทสัญชาติเกาหลีอย่าง Hankook ก็ซุ่มผลิตยางไร้ลมรุ่น I-Flex เพื่อเตรียมวางจำหน่ายก่อนปี 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วยเช่นกัน


goodyear-npt-20211015-scaled

Image
Image


ข้อดีของยาง
NPT มีอะไรบ้างมาดูกัน


1.ลดต้นทุนค่าบำรุงรักษารถยนต์

การที่เราขับขี่รถยนต์ด้วยยางพิเศษโดยที่ไม่จำเป็นต้องเติมลมจะช่วยลดต้นทุนค่าบำรุงรักษาได้อย่างมหาศาลสำหรับอุตสาหรรมที่ต้องใช้ยานพาหนะทั่วโลก 
 19201-goodyear-npt-starship-20210105-2

2.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากยาชนิดนี้ผลิตด้วยวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

16-1437021520-hankook-iflex-airless-tyres-01

 

3. แข็งแรงทนทานกว่ายางแบบเติมลม

เนื่องจากยางชนิดนี้ออกแบบเป็นลักษณะโครงสร้างตาข่าย ทำให้มีความทนทานสูงโดยสามารถขับขี่ได้ในทุกสภาพพื้นผิวถนน เช่น วิ่งบนทะเลทราย ,ถนนคอนกรีต ,พื้นขรุขระ หรือแม้แต่พื้นโคลน ก็สามารถทำได้ดีกว่ายางแบบเติมลมมาก
 

nprbrightspotcdn

Image
Image

รถยนต์ไฟฟ้ามาแรงฉุดไม่อยู่ หรือนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการสูญพันธ์ของรถยนต์ใช้น้ำมัน!

รถยนต์ไฟฟ้ามาแรงฉุดไม่อยู่ หรือนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการสูญพันธ์ของรถยนต์ใช้น้ำมัน!

คำว่า "รถยนต์พลังงานน้ำมันจะหายไปจากโลก" คงยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน แต่แน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นเกี่ยวข้องกับโอกาสทางเทคโนโลยีและแนวโน้มของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจเพราะมีผลกระทบต่อการลดการใช้น้ำมันและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในอากาศ ซึ่งเป็นประโยชน์ที่มีส่วนสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางที่ยั่งยืนก็เป็นหนึ่งในแนวโน้มที่น่าสนใจ แต่ความเป็นจริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ได้เป็นที่นิยมหรือมีการยอมรับมากเท่าที่ควร และมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้มันยังไม่พร้อมที่จะแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันในปัจจุบัน

เหตุผลหลัก 4 ข้อ ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่สามารถแทนที่รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง

1. พื้นที่การใช้งาน: รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางที่สามารถเดินทางได้ต่อการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งยังไม่สามารถทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสมสำหรับการเดินทางไกลหรือการใช้ในพื้นที่ที่ไม่มีระบบชาร์จที่เข้าถึงได้ง่าย

2. ความพร้อมของพื้นฐานพลังงาน: ระบบพื้นฐานในการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังมีความสำคัญ เพราะการผลิตไฟฟ้าอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นหากใช้แหล่งพลังงานที่ไม่ยั่งยืนหรือที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง

3. ค่าใช้จ่ายและพื้นฐานพื้นฐาน: การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้ายังมีค่าใช้จ่ายที่สูง และในบางประเทศ การที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่พร้อมและมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาต่อไป

4. ความสามารถในการให้พลังงานและประสิทธิภาพของไฟฟ้า: ยังมีความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในการให้พลังงานแก่รถยนต์ไฟฟ้า และความสามารถในการทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่างๆ ที่อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง

การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นทางเลือกที่ดีต่อการลดการใช้น้ำมันและประสิทธิภาพที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม แต่มันยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อที่จะกลายเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและสามารถใช้แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้อย่างแท้จริงในอนาคต

ddafafd

รุ่งหรือร่วง รถพลังงานไฮโดรเจน ทางเลือกใหม่แห่งอนาคต

รุ่งหรือร่วง รถพลังงานไฮโดรเจน ทางเลือกใหม่แห่งอนาคต

รถพลังงานไฮโดรเจนหรือ Full Cell Electric Vehicles (FCEVs) คือรถยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งมีคนจำนวนมากที่ยังเข้าผิดคิดว่าไฮโดรเจนกับน้ำคือตัวเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วกว่าจะได้พลังงานไฮโดรเจนนั้นจะต้องผ่านขบวนการแยกน้ำออกจากไฮโดรเจนเสียก่อน ซึ่งหลักการทำงานของรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนนั้นคือการนำไฮโดรเจนจากถังเก็บไปผสมกับออกซิเจนจนก่อเกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับขับเคลื่อนรถยนต์นั่นเอง


toyota-mirai-at-fueling-station-1664139139

คุณสมบัติที่น่าสนใจของรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน

1.ระบบไฟฟ้าของรถยนต์ไฮโดรเจนนั้นมีประสิทธิภาพสูง

2.พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ปล่อยคาร์บอนสู่อากาศ

3.การเติมไฮโดรเจนสามารถทำได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

Image
Image

 

มาดูข้อเสียของรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนกันบ้าง

1.เทคโนโลยีผลิตไฮโดรเจนค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนกว่าการกลั่นน้ำมันหรือผลิตกระแสไฟฟ้า

2.การทำสถานีไฮโดรเจนมีต้นทุนสูงและมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย จึงทำได้ยากและยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร

3.เทคโนโลยีผลิตไฮโดรเจนยังไม่นิ่ง มีแนวโน้มว่ายังต้องพัฒนาอีกเยอะ ต่างจากรถยนต์EVที่มีเทคโนโลยีที่นิ่งกว่าและวางขายทั่วโลกมานานหลายปีแล้ว

HydrogenFuelCellVehicle15a26ded

 

บริษัทรถยนต์ระดับโลกหันมาผลิตรถยนต์ไฮโดรเจน?

ปัจจุบันได้มีแบรนด์รถยนต์หลายค่ายให้ความสนใจและผลิตรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนเพื่อวางจำหน่ายกันอย่างจริงจรัง มาดูกันว่ามีแบรนด์ไหนรุ่นไหนกันบ้าง

1.Hyundai NEXO  ( 9,591 คัน)    ยอดขายทั่วโลกปี 20221-hyundai-nexo-2019-rt-hero-fron

2.Toyota Mirai ( 2,897 คัน)    ยอดขายทั่วโลกปี 2022

232-1-2

3.Honda Clarity Fuel Cell ( 201 คัน)    ยอดขายทั่วโลกปี 2022

CLARITY20FuelCellFRONT

Image
Image

 

เทคโนโลยีไฮโดรเจนดีก็จริง แต่กระแสยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร

ปัจจุบันยอดขายรถยนต์ไฮโดรเจนนั้นยังจัดว่าน้อยกว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่เยอะมากหรือเรียกง่ายๆว่าไม่มีโอกาสที่จะแทรกขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งเลยด้วยซ้ำ แค่เฉพาะเทสล่ารถไฟฟ้าเจ้าตลาดก็มียอดขายปี2022กู้สูงเกือบ 2 ล้านคันเข้าไปแล้ว ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฮโดรเจนทุกค่ายรวมกันทำได้เพียงหลักหมื่นคันเท่านั้น  ซึ่งนักวิเคราะห์ทั่วโลกก็ต่างให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันความพร้อมของรถยนต์ไฮโดรเจนนั้นยังน้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้าEVหลายเท่าตัวและยังต้องพัฒนาอีกมากเนื่องจากมีข้อเสียเรื่องในขบวนการผลิตไฮโดรเจนที่ซับซ้อนทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง รวมไปถึงการออกแบบติดตั้งสถานีจ่ายไฮโดรเจนเชิงพาณิชย์นั้นทำได้ยากลำบากกว่าสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่มาก ผู้เขียนในอนาคตอันใกล้นี้ผู้พัฒนารถยนต์ไฮโดรเจนจะต้องพัฒนาเทคโนโลยนีรถยนต์ไฮโดรเจนออกสู่ท้องตลาดอย่างมากขึ้นและที่สำคัญต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเงินในกระเป๋าผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดอย่างแน่นอน

 

 อ้างอิง

https://www.firehouse.com/rescue/article/12385113/hydrogen-fuel-cell-vehicles-what-first-responders-need-to-know-firehouse

https://www.wired.com/sponsored/story/the-wired-brand-lab-guide-to-hydrogen-fuel-cell-electric-vehicles

 

 

ดุเดือด BMW ส่งรถยนต์ไฟฟ้าซีรี่ IX สู้ศึกTesla และ BYD

ดุเดือด BMW ส่งรถยนต์ไฟฟ้าซีรี่ IX สู้ศึกTesla และ BYD

แน่นอนว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้แข่งขันกันอย่างดุเดือด ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่นิยมมากนักในบ้านเรา แต่ปัจจุบันนี้หันไปทางไหนก็มีแต่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มท้องถนนไปหมด  ส่งผลให้เจ้าตลาดรถยนต์หรูแบรนด์ BMWไม่รอช้า  ส่งรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อน4ล้อ ถึง 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่  BMW IX xdrive40 และ BMW IX xdrive50 เพื่อลงสนามศึกการเป็นผู้นำรถไฟฟ้าแห่งอนาคตในครั้งนี้ด้วย โดยก่อนหน้านี้เทสล่า และ BYD ต่างก็เข้ามาทำตลาดฟันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าถล่มทลายจนเกิดกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าไปทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว 

 

 มาดูกันว่าสเป็ค bmw ix ซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่นคือ Xdrive40 และ Xdrive50 ถูกใจแฟนๆรถไฟฟ้าหรือไม่

 

สเป็คเบื้องต้น รุ่น BMW IX xdrive40

  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า
  • มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
  • ความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.1 วินาที 
  • พละกำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า
  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 425 กิโลเมตร
  • รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์
  • ราคาจำหน่าย: 4,999,000 บาท
     

สเป็คเบื้องต้น รุ่น BMW IX xdrive50 

  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า
  • มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
  • ความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.6 วินาที 
  • พละกำลังรวมสูงสุด 523 แรงม้า
  • ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 570 กิโลเมตร
  • รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 195 กิโลวัตต์
  • ราคาจำหน่าย: 5,999,000 บาท
     

Quicklinks
News
Technology
Business
Lifestyle
Health
รีวิวสินค้าและบริการ
ข่าวPR
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับเรา

Digital Lava เว็บข่าวสาร เทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ
-ติดต่องาน รีวิวสินค้า ลงโฆษณาสินค้า ทำข่าวPR เขียนโปรโมทธุรกิจ ทำคลิปรีวิว
(คลิก)ดูรายละเอียดเพิ่มเติม         
           หรือ
โทร 065-164-2649
คลิก Add Line สอบถาม

สนใจลงโฆษณา/ฝากข่าวPR
finexdesign.info@gmail.com
579447
วันนี้
เมื่อวาน
เดือนที่แล้ว
ทั้งหมด
174
354
10880
579447